YMFTHAI-FAQ การแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ( Troubleshoot basic ) วิธีแก้ไขหน้าจอคอมไม่ติดเบื้องต้น 

วิธีแก้ไขหน้าจอคอมไม่ติดเบื้องต้น 

1. ตรวจสอบที่สายไฟ

การตรวจเช็คหรือตรวจสอบที่ตรงสายไฟ ในตอนที่เราเปิดคอมพิวเตอร์แล้วหน้าจอไม่ติด ให้เราสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่า อาจจะเป็นที่สายไฟ ให้ทำการตรวจสอบว่าสายไฟนั้นมีการหลุดหรือไม่ มีอาการหลวมปหรือไม่ หรือว่าจะขาดตรงไหนหรือเปล่า เมื่อดูแล้วให้ลองขยับสายไฟ ถอดและเสียบปลั๊กใหม่ แล้วดูหน้าจอว่ามีภาพขึ้นไหมครับ

2. ตรวจสอบสายเชื่อมต่อสัญญาณ

ทำการตรวจสอบใหม่ก็คือเหล่าสายเชื่อมต่อสัญญาณอย่างสาย D-Sub, DVI หรือ HDMI โดยให้ถอดสายสัญญาณ ออกมาเช็คหรือตรวจสอบดูเลยว่ามีจุดตรงไหนขาดหรือหักไหม หากไม่มีก็ให้ลองใส่เชื่อมต่ออีกครั้งและขยับสายให้แน่นขึ้น เพื่อกันปัญหาในกรณีของสายหลวม โดยสายสัญญาณจะอยู่หลังจอ

3. เปลี่ยนสายไฟเส้นใหม่

วิธีต่อมานี้เป็นวิธีที่อยากให้ลองหลังจากทำการตรวจสอบสายไฟแล้วหน้าจอยังไม่ติด นั่นก็คือการนำสายไฟใหม่มาเปลี่ยนดูเลยครับ เพื่อวัดกันไปเลยว่าเป็นที่สายไฟจริงหรือไม่ อาจจะทำการเสียบปลั๊กที่ช่องเดิม หรือจะเสียบช่องใหม่ไปเลยก็ได้ แล้วจึงลองตรวจสอบดูว่า หน้าจอคอมพิวเตอร์ของเรานั้น กลับมาติดเป็นปกติแล้วหรือยังนะครับ

4. เปลี่ยนสายเชื่อมต่อสัญญาณ

นี่ก็เป็นวิธีที่คล้ายกับในการเปลี่ยนสายไฟ นั่นก็คือ เปลี่ยนสายเชื่อมต่อสัญญาณ ในกรณีที่ทำการตรวจสอบสายเชื่อมต่อสัญญาณอย่างสาย D-Sub, DVI หรือ HDMI เรียบร้อยแล้ว แต่ว่าหน้าจอก็ยังไม่ติด ให้ทำการเปลี่ยนสายเชื่อมต่อเหล่านี้ใหม่โดยทันที และก็อย่าลืมว่าเมื่อเปลี่ยนสายใหม่แล้วก็ต้องตรวจสอบถึงการเสียบว่ายึดแน่นให้ตัวสายนั้นไม่หลวมพอแล้วหรือยัง แล้วจากนั้นก็ลองเปิดหน้าจอดูกันได้เลยครับ

ถ้ายังไม่ได้โปรดโทรติดต่อช่าง

Related Post

ไม่สามารถเข้า Windows ได้ไม่สามารถเข้า Windows ได้

การเข้า Windows ไม่ได้นับว่าเป็นปัญหาใหญ่มากทีเดียว เพราะจะทำให้ไม่สามารถเข้าใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ ดังนั้น จำเป็นต้องหาสาเหตุให้พบว่าสาเหตุที่ทำให้ระบบปฏิบัติการ Window ภายในคอมล่มเกิดจากอะไร ไม่ว่าจะเป็นการถูกจู่โจมด้วยไวรัส อุปกรณ์ชำรุดเสียหายจากน้ำหรือไฟฟ้าลัดวงจร หรือคอมพิวเตอร์ขาดการอัพเดตและใช้นานมาเป็นเวลานานโดยไม่ได้บำรุงรักษา จึงจะสามารถหาทางแก้ไขได้อย่างตรงจุด วิธีแก้ไข: กรณี Window เข้าไม่ได้ สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการเข้าไปยัง Safe Mode เพื่อถอนการติดตั้งโปรแกรมที่อาจนำไวรัสมารังควาญการทำงานของคอมพิวเตอร์ หรืออาจใช้ Safe Mode ในการดึงข้อมูลไปเก็บไว้ให้ปลอดภัยก่อนที่จะลง Window ใหม่ก็ได้เช่นกัน

แอพหรือโปรแกรมค้าง ทำงานไม่ได้ ปิดก็ไม่ได้แอพหรือโปรแกรมค้าง ทำงานไม่ได้ ปิดก็ไม่ได้

หนึ่งในปัญหาคลาสสิคที่ทุกคนพบเจอ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นจากการใช้งานหน่วยความจำหนักเกินไป หรือไวรัสโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์ ปัญหาดังกล่าวอาจทำให้งานที่ทำอยู่ถูกลบไปโดยที่ยังไม่ได้บันทึกได้ ดังนั้น ปัญหาแอพหรือโปรแกรมค้างจำเป็นที่จะต้องดำเนินการแก้ไขด้วยความใจเย็น เพื่อให้ส่งผลกระทบต่อคอมน้อยที่สุด วิธีแก้ไข: ปัญหาแอพหรือโปรแกรมค้างสามารถแก้ไขได้ง่ายด้วยการกด Ctrl+Alt+Del จากนั้นให้เลือกโปรแกรมที่ค้างหรือขึ้น Not Responding แล้วคลิก End Task เพื่อปิดการใช้งานโปรแกรมดังกล่าวเป็นการเฉพาะ จากนั้นให้เปิดโปรแกรมขึ้นมาใหม่อีกครั้งจะพบว่ายังมีข้อมูลหลงเหลืออยู่จากการ Auto Save ให้จัดการ Save ให้เรียบร้อยเพื่อใช้งานต่อไป

วิธีแก้ไขคีย์บอร์ด พิมพ์ไม่ได้ เบื้องต้นด้วยตัวเองวิธีแก้ไขคีย์บอร์ด พิมพ์ไม่ได้ เบื้องต้นด้วยตัวเอง

1. ถอดและเชื่อมต่อคีย์บอร์ดอีกครั้ง หากใช้คอมพิวเตอร์เดสก์ท้อปหรือต่อคีย์บอร์ดแยก ให้ลองถอดแล้วเสียบใหม่ ส่วนคีย์บอร์ดไร้สายก็ให้ถอดตัวรับสัญญาณ USB แล้วเสียบใหม่ หรือถ้าใช้คีย์บอร์ดบลูทูธ ให้เปิด Start Menu พิมพ์ว่า Bluetooth แล้วกด Enter จากนั้นเลือกคีย์บอร์ดที่ใช้อยู่ กด Remove แล้วเชื่อมต่อใหม่ อาจจะกลับมาพิมพ์ได้เหมือนปกติ 2. รีสตาร์ตเครื่อง ถ้าทำตามข้อแรกแล้วยังไม่หาย ให้ลองรีสตาร์ตคอมพิวเตอร์ดูสักครั้ง เพราะการบูตระบบขึ้นมาใหม่อาจช่วยแก้บั๊กและปัญหาหลาย ๆ อย่างให้หายไปได้ 3. เปลี่ยนพอร์ต USB