YMFTHAI-FAQ การแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ( Troubleshoot basic ) การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ เบื้องต้น

การดูแลรักษาคอมพิวเตอร์ เบื้องต้น

คอมพิวเตอร์ เมื่อใช้ไประยะหนึ่งจะมีการเสื่อมชำรุดไปตามสภาพระยะเวลาที่ใช้งาน ผู้ใช้คอมพิวเตอร์จึงควรเอาใจใส่ ดูแลและบำรุงรักษา อย่างเหมาะสมสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มอายุ การใช้งานของเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งจะช่วยให้สามารถ ประหยัดงบประมาณในการซ่อมบำรุงหรือการเปลี่ยนอุปกรณ์

การทำความสะอาดระบบคอมพิวเตอร์

1. ไม่ควรทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์ในขณะที่เครื่องยังเปิดอยู่ ถ้าคุณจะทำความ สะอาดเครื่อง ควรปิดเครื่องทิ้งไว้ 15-20 นาที ก่อนลงมือทำความสะอาด

 2. ห้ามใช้ผ้าเปียก ผ้าชุ่มน้ำ เช็ดคอมพิวเตอร์อย่างเด็ดขาด ในกรณีต้องการทำความสะอาดภายนอก ควรใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะและทำความสะอาดตาม ที่แนะนำไว้ในคู่มือเท่านั้น

3. ห้ามเปิดเครื่องเพื่อทำความสะอาดภายในคอมพิวเตอร์ด้วยตนเอง หรือดูดฝุ้นด้วยเครื่องดูดฝุ่น (นอกจากคุณจะรู้ว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่) เพราะจะทำให้ระบบของเครื่องเกิดความเสียหายได้ ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่างซ่อมคอมพิวเตอร์

4. ไม่ควรฉีดสเปรย์ใด ๆ ไปที่คอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในกรณีที่ต้องใช้สเปรย์ทำความสะอาด ควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของช่างซ่อมคอมพิวเตอร์

5. ไม่ควรดื่มน้ำชา กาแฟ เครื่องดื่มต่าง ๆ ในขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์

6. ไม่ควรกินของคบเคี้ยวหรืออาหารใด ๆ ขณะทำงานด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์

สาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์เกิดความเสียหาย

สิ่งแวดล้อม

สิ่งแวดล้อมก็มีส่วนต่ออายุการใช้งานของคอมพิวเตอร์ ห้องคอมพิวเตอร์ควรเป็นห้องปรับอากาศที่ปราศจากฝุ่นและความชื้น เพราะความร้อน ฝุ่น ความชื้นเป็นสิ่งที่บั่นทอนอายุการใช้งานของคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ละอองสารเคมีต่างๆ เช่น สเปรย์น้ำยา น้ำหอม ต่างๆก็มีส้วนในการบั่นทอนอายุการใช้งานของคอมพิวเตอร์เช่นกัน

ความร้อน

ความร้อนที่เป็นสาเหตุที่ทำให้คอมพิวเตอร์มีปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากความร้อนของ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์บนเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ เอง วิธีแก้ปัญหาคือจะต้องรีบระบายความร้อนที่เกิดจากอุปกรณ์ต่างๆ ออกไปให้เร็วที่สุด เครื่องคอมพิวเตอร์โดยมากจะติดตั้งพัดลมระบายอากาศตามชิ้นส่วนต่างๆไม่ว่าจะ เป็น พัดลมระบายอากาศที่ติดอยู่กับCPU พัดลมระบายอากาศที่ติดอยู่กับการ์ดจอ พัดลมระบายอากาศที่ติดอยู่กับเพาเวอร์ซัพพลาย และพัดลมระบายอากาศที่ติดตั้งอยู่ที่ตัวถัง(เคส)ของเครื่องคอมพิวเตอร์

ดังนั้นเราควรสังเกตุและดูแลรักษาให้พัดลมที่ถูกตั้งอยู่ตามจุดต่างๆทำงาน ได้เต็มประสิทธิภาพของมัน เพาเวอร์ซัพพลายเองก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ก่อให้เกิดความร้อนได้มากหากเราใช้ เพาเวอร์ซัพพลายที่มีขนาดไม่เหมาะสมกับความต้องการกระแสไฟฟ้าของเครื่อง ทำให้เพาเวอร์ซัพพลายทำงานหนักเกินกว่าเสป็คของมัน โดยมากเครื่องคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปที่มีจำหน่ายอยู่ทั่วไปจะติดตั้งเพาเวอร์ ซัพพลายมาให้อย่างเหมาะสมอยู่แล้ว แต่ในกรณีที่เรามีการติดตั้งอปกรณ์เพิ่มหรือในกรณีที่ซื้อเครื่องประกอบเอง จึงควรใส่ใจกับเรื่องนี้ด้วย นอกจากนี้ควรเลือกเพาเวอร์ซัพพลายที่ได้คุณภาพตามมาตรฐานเพื่อลดการเกิด สัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้าซึ่งอาจจะไปรบกวนการทำงานของอุปกรณ์อื่นๆได้

             นอกจากนี้ตำแหน่งที่ตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่ควรอยู่ในบริเวณที่ต้องโดน แสดงแดดเป็นเวลานานๆ และควรติดตั้งตัวเครื่องห่างจากผนังพอสมควรเพื่อให้สามารถระบายความร้อนได้ ดียิ่งขึ้น

ฝุ่นผง

เป็นที่ทราบกันดีว่าในอากาศมีฝุ่นผงกระจัดกระจายอยู่ในทุกๆ ที่ ฝุ่นผงที่เกาะติดอยู่บนแผงวงจรของคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่เสมือนฉนวนป้องกัน ความร้อนทำให้ความร้อนที่เกิดขึ้นในระบบไม่สามารถระบายออกสู่สภาพแวดล้อมภาย นอก นอกจากนี้ฝุ่นผงอาจไปอุดตันช่องระบายอากาศของเพาเวอร์ซัพพลายหรือเกาะตามใบ พัดของพัดลมระบายอากาศตามจุดต่างๆ  ดังนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์จึงควรได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ โดยช่างผู้ชำนาญ

          สนามแม่เหล็ก

สนามแม่เหล็กจากแม่เหล็กที่เป็นส่วนประกอบอยู่ในอุปกรณ์หลายๆชนิด หรือสนามแม่เหล็กที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงๆอาจทำให้ในแผ่นดิสก์หรือ ฮาร์ดดิสก็สูญหายได้อย่างถาวร หรืออาจจะทำให้จอภาพเสื่อมประสิทธิภาพ เกิดสีเพี้ยน แหล่งที่ให้กำเนิดสนามแม่เหล็กในสำนักงานมีอยู่มากมายหลายประเภท เช่น แม่เหล็กติดกระดาษบันทึก คลิปแขวนกระดาษแบบแม่เหล็ก ไขควงหัวแม่เหล็กลำโพง มอเตอร์ในพรินเตอร์ UPS เครื่องปรับอากาศ ดังนั้นเราจึงไม่ควรวางอุปกรณ์เหล่านี้ไว้ใกล้กับคอมพิวเตอร์มากนัก หรือโยกย้ายคอมพิวเตอร์ออกจากบริเวณดังกล่าว

สัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้า

สัญญาณรบกวนในสายไฟฟ้าอาจเกิดได้ในหลายลักษณะตั้งสัญญาณรบกวนอ่อนจากอุปกรณ์ ที่ไได้มาตรฐาน แรงดันไฟตก แรงดันไฟเกิน ไฟกระตุก สัญญาณไฟฟ้าไม่สม่ำเสมอ ฟ้าผ่า ทั้งหมดนี้สามารถทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานผิดพลาดไปจนถึงเสียหายได้ จึงควรมีการติดตั้งเครื่องจ่ายไฟสำรอง (UPS) ด้วยเพราะ UPS จะช่วยป้องกันและแก้ปัญหาทางไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นไฟตก ไฟเกิน หรือไฟกระชาก อันเป็นสาเหตุที่จะทำให้เกิดความเสียหายของข้อมูลและชิ้นส่วนอื่นๆ

ไฟฟ้าสถิตย์

ไฟฟ้าสถิตย์สามารถเกิดขึ้นได้ทุกฤดูกาล แต่ในสภาวะที่อากาศแห้ง จะส่งผลให้ความเป็นฉนวนไฟฟ้าสูง ประจุของไฟฟ้าสถิตย์จะสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก และหาทางวิ่งผ่านตัวนำไปยังบริเวณที่มีศักย์ไฟฟ้าต่ำกว่า ดังนั้นเมื่อท่านไปจับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ประจุของไฟฟ้าสถิตย์จากตัวท่านจะวิ่งไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เหล่านั้น ทำให้อุปกรณ์เกิดความเสียหายได้ แต่ในสภาวะที่มีความชื้นสูง ไฟฟ้าสถิตย์ที่เกิดขึ้นจะรั่วไหลหายไปในระยะเวลาอันสั้น เราจึงควรทำการคายประจุไฟฟ้าสถิตย์ ด้วยการจับต้องโลหะอื่นที่ไม่ใช้ตัวถังเครื่องคอมพิวเตอร์ ก่อนจะสัมผัสอุปกรณ์ต่างๆ ในระบบคอมพิวเตอร์

น้ำและสนิม

น้ำและสนิมเป็นศัตรูตัวร้ายของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด สนิมที่พบในเมนบอร์ดของคอมพิวเตอร์ มักจะเกิดจากการรั่วซึมของแบตเตอรี่บนเมนบอร์ด ซึ่งถ้าเกิดปัญหานี้ขึ้น นั่นหมายความว่าท่านจะต้องควักกระเป๋าซื้อเมนบอร์ดตัวใหม่มาทดแทนตัวเก่าที่ ต้องทิ้งลงถังขยะสถานเดียว ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการนำของเหลวทุกชนิดมาวางบนโต๊ะคอมพิวเตอร์ของท่าน ส่วนกรณีการรั่วซึมของแบตเตอรี่ ปัญหานี้สามารถถูกตรวจพบได้หาดมีการดูแลรักษาคอมพิวเตอร์อย่างสม่ำเสมอและทำ การเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่นๆเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ ที่เราต้องหลีกเลี่ยงเพื่อยืดอายุการใช้งานดังนี้

             • การต่อสายสัญญาณระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์กับอุปกรณ์ต่างๆเช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องแฟซ์ โมเด็ม หรือส่วนอื่นๆจะต้องกระทำเมื่อปิดเครื่องเท่านั้น

             • อย่าปิด – เปิดเครื่องบ่อยๆ เกินความจำเป็น เพราะจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง

             • อย่าปิดเครื่องในขณะที่ครื่องทำงานอยู่เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายแก่โปรแกรมที่กำลังทำงานอยู่

             • ไม่เคลื่อนย้ายเครื่องคอมพิวเตอร์ขณะที่เครื่องทำงานอยู่ เพราะจะทำให้อุปกรณ์บางตัวเกิดความเสียหายได้

             • อย่าเปิดฝาเครื่องขณะใช้งานอยู่ ถ้าต้องการเปิดฝาเครื่องต้องปิดเครื่องและถอดปลั๊กไฟก่อน

             • ควรศึกษาจากคู่มือให้ละเอียดก่อนการใช้งาน

             • ตัวถังภายนอกของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่เป็นส่วนประกอบของเหล็กกับ พลาสติกเมื่อใช้นานๆ จะมีฝุ่นและคราบรอยนิ้วมือทำให้ดูไม่สวยงามและถ้าปล่อยไว้นานๆ จะทำความสะอาดยาก จึงควรทำความสะอาดเป็นระอย่าง โดยใช้น้ำยาสำหรับทำความสะอาดเครื่องคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ควรใช้ผ้าคลุมเครื่องให้เรียบร้อยหลังเลิกใช้งานทุกครั้งเพื่อป้องกันฝุ่นผง ต่างๆ

Related Post

วิธีตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเครื่องปริ้นไม่ทำงานเบื้องต้นวิธีตรวจสอบและแก้ไขปัญหาเครื่องปริ้นไม่ทำงานเบื้องต้น

1. ตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟ ขั้นตอนแรกควรตรวจสอบสายไฟและปลั๊กไฟของ Printer (เครื่องปริ้น) ว่าเสียบแน่นหรือไม่ หากสายไฟหรือปลั๊กไฟชำรุดเสียหาย ควรเปลี่ยนใหม่ 2. ตรวจสอบการตั้งค่า Printer (เครื่องปริ้น) หาก Printer (เครื่องปริ้น)เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย USB ให้ตรวจสอบการตั้งค่า Printer (เครื่องปริ้น) ในคอมพิวเตอร์ว่าถูกต้องหรือไม่ ในกรณีนี้อาจเกิดจากปัญหาการตั้งค่า Printer (เครื่องปริ้น) หรือไดรเวอร์ Printer (เครื่องปริ้น) 3. ตรวจสอบกระดาษและหมึก ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระดาษและหมึกของ Printer

อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ทำงานอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ทำงาน

อุปกรณ์ต่าง ๆ ในคอมมีปัญหาทำงานบกพร่องหรือไม่ทำงานอาจเกิดขึ้นจากหลากหลายสาเหตุ จำเป็นที่จะต้องค้นหาสาเหตุเป็นการเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ด เมาส์ ลำโพง เสียงหาย หน้าจอแสดงผลไม่สมบูรณ์ ซึ่งหากลองตรวจสอบแบตเตอรี่หรือร่องรอยความชำรุดเสียหายแล้วไม่พบ ก็มีความเป็นไปได้ว่าสาเหตุอาจมาจากไดร์เวอร์ของอุปกรณ์ดังกล่าวอาจขาดการอัพเดตหรือทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งในกรณีแก้ไขได้ไม่ยาก วิธีแก้ไข: ให้ตรวจสอบรุ่นของอุปกรณ์ที่ใช้ จากนั้นให้ดาวน์โหลดไดร์เวอร์จากอินเตอร์เน็ตมาอัพเดตแทนไดร์เวอร์เก่าที่ล้าสมัยหรือทำงานผิดปกติ หากปัญหาเกิดจากไดร์เวอร์ การอัพเดตไดร์เวอร์ใหม่แล้ว Restart คอมจะช่วยให้อุปกรณ์เหล่านั้นกลับมาทำงานได้ตามปกติ

การแก้ปัญหาเบื้องต้น ในกรณีใช้เน็ตไม่ได้การแก้ปัญหาเบื้องต้น ในกรณีใช้เน็ตไม่ได้

ตรวจสอบสายอุปกรณ์ตรวจสอบจุดเชื่อมต่อระหว่างสาย LAN กับ Router และสาย LAN กับคอมพิวเตอร์ ว่าอยู่ในสภาพปกติหรือไม่ เพราะบางครั้งอินเทอร์เน็ตหลุดใช้งานไม่ได้ ก็อาจจะมาจากปัญหาง่ายๆ ที่ถูกมองข้ามไป แต่หากจุดเชื่อมต่อระหว่างสายแน่นดีแล้วแต่อินเทอร์เน็ตยังคงใช้งานไม่ได้ แนะนำให้แจ้งช่างเทคนิคเพื่อแก้ปัญหาตรวจสอบการเชื่อมต่อและ IP Addressเป็นการตรวจสอบปัญหาเครือข่ายภายในของเราเอง โดย กด Windows+Q แล้วพิมพ์ CMD หรือcommand prompt เลือก command prompt เพื่อไปเช็ค IP Gateway จากนั้นใช้คำสั่ง Ping