อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ทำงาน

อุปกรณ์ต่าง ๆ ในคอมมีปัญหาทำงานบกพร่องหรือไม่ทำงานอาจเกิดขึ้นจากหลากหลายสาเหตุ จำเป็นที่จะต้องค้นหาสาเหตุเป็นการเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ด เมาส์ ลำโพง เสียงหาย หน้าจอแสดงผลไม่สมบูรณ์ ซึ่งหากลองตรวจสอบแบตเตอรี่หรือร่องรอยความชำรุดเสียหายแล้วไม่พบ ก็มีความเป็นไปได้ว่าสาเหตุอาจมาจากไดร์เวอร์ของอุปกรณ์ดังกล่าวอาจขาดการอัพเดตหรือทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งในกรณีแก้ไขได้ไม่ยาก

ให้ตรวจสอบรุ่นของอุปกรณ์ที่ใช้ จากนั้นให้ดาวน์โหลดไดร์เวอร์จากอินเตอร์เน็ตมาอัพเดตแทนไดร์เวอร์เก่าที่ล้าสมัยหรือทำงานผิดปกติ หากปัญหาเกิดจากไดร์เวอร์ การอัพเดตไดร์เวอร์ใหม่แล้ว Restart คอมจะช่วยให้อุปกรณ์เหล่านั้นกลับมาทำงานได้ตามปกติ

Related Post

โน๊ตบุ๊คชาร์จไฟไม่เข้าเช็คอาการและแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเองโน๊ตบุ๊คชาร์จไฟไม่เข้าเช็คอาการและแก้ไขเบื้องต้นด้วยตัวเอง

โน๊ตบุ๊คชาร์จไฟไม่เข้า แก้ไขยังไงดี เกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่ถ้ามีอาการเสียหาย และทำทุกวิธีแล้วไม่ได้ผลอาจต้องลองเสียเงินหรือส่งให้ทางศูนย์ซ่อมหรือช่างผู้ชำนาญเช็กให้ บทความนี้ได้รวบรวมวิธีตรวจสอบอาการผิดปกติกรณีเสียบสายชาร์จโน๊ตบุ๊คแล้วแต่ชาร์จไฟไม่เข้าดังนี้ เพื่อให้สามารถชาร์จไฟได้อีกครั้ง โดยบทความนี้สำหรับผู้ใช้ Windows แต่ถ้าคุณใช้ Macbook หรือ Linux ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้เช่นกัน 1. ตรวจสอบการเสียบทั้งหมด เสียบจริงหรือไม่ ให้แน่ใจว่าคุณได้เสียบสายชาร์จเข้ากับพอร์ตชาร์จของแล็ปท็อปอย่างแน่นหนา จากนั้นตรวจสอบการเชื่อมต่อกับเต้ารับที่ผนังอีกครั้ง ลองลองใช้เต้ารับอื่นในกรณีที่เต้ารับปัจจุบันใช้ไม่ได้ หากคุณเสียบปลั๊กไฟ ให้ลองต่อโดยตรงกับเต้ารับที่ผนังแทน กรณีปลั๊กพ่วงให้ดูที่ปลั๊กพ่วงด้วยว่าได้เปิดสวิตซ์เป็น ON ด้วยหรือยัง 2. ถอดแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คออกและเชื่อมต่อกับแหล่งจ่ายไฟ ขั้นต่อไป คุณควรตรวจสอบว่าแบตเตอรี่แล็ปท็อปของคุณใช้งานได้หรือไม่ หากแล็ปท็อปของคุณมีแบตเตอรี่แบบถอดได้ ให้ถอดแบตเตอรี่ออกจากเครื่อง ถอดปลั๊กที่ชาร์จและอุปกรณ์เสริมที่เชื่อมต่อออกด้วย 

สาเหตุและวิธีแก้ไขเมื่อคอมพิวเตอร์เจอปัญหาความร้อนสูงเกินไปสาเหตุและวิธีแก้ไขเมื่อคอมพิวเตอร์เจอปัญหาความร้อนสูงเกินไป

วิธีการตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์มีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่?  เริ่มต้นด้วยการสัมผัสพีซีของคุณเพื่อตรวจสอบว่าเครื่องร้อนเกินไปหรือไม่  จะพบว่าอุปกรณ์ค่อนข้างร้อน นอกจากนี้ ยังมีเสียงดังของพัดลมพีซีที่ทำงานด้วยความเร็วอย่างเต็มที่ การทำงานที่ช้าลงอย่างมาก และการปิดระบบโดยไม่คาดคิด ก็เป็นสัญญาณที่แสดงว่าคอมพิวเตอร์ร้อนเกินไปเช่นกัน หากพีซีของคุณค้างและหยุดทำงานบ่อยครั้งนั่นก็เพื่อลดความเสียหายเนื่องจากความร้อนที่สูงเกินไป จึงทำให้ CPU เลือกที่จะปิดงานส่วนที่ใช้ทรัพยากรมาก ในกรณีที่คอมพิวเตอร์ของคุณเริ่มส่งเสียงดังหรือร้อนขึ้นเมื่อเปิดแท็บมากเกินไปในเบราว์เซอร์ของคุณ หรือขณะที่ไฟล์มัลติมีเดียกำลังถูกแก้ไขหรือในขณะที่คุณกำลังเล่นเกมอยู่ แสดงว่าพีซีมีความร้อนสูงเกินไปอย่างแน่นอน คุณต้องปิดโปรแกรมเหล่านี้ทันทีเพื่อให้พีซีของคุณมีเวลาพักและมีเวลาให้เย็นลง นอกจากนี้ คุณอาจต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ตรวจสอบอุณหภูมิหากคอมพิวเตอร์ของคุณมีความร้อนสูงเกินไปบ่อยๆ ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้คุณสามารถตรวจสอบอุณหภูมิของพีซีได้ในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน ทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่และเมื่อใดด้วย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคอมพิวเตอร์มีความร้อนสูงนานเกินไป หากคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเย็นลงได้เป็นเวลานาน ผลลัพธ์ของคอมพิวเตอร์จะแตกต่างกันไปตามปริมาณความร้อนที่เกิดขึ้นและการออกแบบของ CPU โดยเริ่มแรกนั้น คุณจะสังเกตเห็นว่าพีซีของคุณค้างหรือหยุดทำงาน หากปัญหาความร้อนสูงเกินไปไม่ได้รับการแก้ไขในขั้นตอนนี้ จะนำไปสู่ข้อผิดพลาด BSOD

เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ติด ไม่มีการตอบสนองใดๆ เกิดขึ้นเปิดคอมพิวเตอร์ไม่ติด ไม่มีการตอบสนองใดๆ เกิดขึ้น

เปิดคอมพิวเตอร์ไม่ติด ไม่มีการตอบสนองใดๆ เกิดขึ้นเมื่อคอมพิวเตอร์เปิดไม่ติดหรือไม่สามารถเปิดเครื่องได้ ปัญหาอาจเกิดขึ้นจาก Virus ภายในตัวเครื่อง Mainboard หรือ CPU ทำงานผิดปกติ เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือการต่ออุปกรณ์สายไฟที่ไม่ถูกวิธี การแก้ไขปัญหาทำได้ง่ายๆ โดยให้ความสำคัญทั้งการเก็บหรือถอดอุปกรณ์อย่างเป็นระเบียบและประกอบให้เหมือนเดิม พร้อมหมั่นตรวจสอบประสิทธิภาพอยู่เสมอเพื่อการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ต่อเนื่อง