YMFTHAI-FAQ การแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์เบื้องต้น ( Troubleshoot basic ) วิธีแก้เมาส์ค้าง ทำได้เลยด้วยตัวเอง

วิธีแก้เมาส์ค้าง ทำได้เลยด้วยตัวเอง

เมาส์ อุปกรณ์บังคับสำหรับคอมพิวเตอร์ หรือโน๊ตบุ๊ค มีหลายขนาดให้รองรับกับมือของผู้ใช้งานไม่ว่าจะเล็ก กลางหรือใหญ่ รวมถึงยังสามารถแบ่งออกได้เป็นสำหรับการทำงาน หรือเล่นเกมอีกด้วย พร้อมทั้งการเชื่อมต่อที่เลือกได้ทั้งแบบมีสายหรือไร้สาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์สำคัญที่ทุกคนต้องมี แต่ว่าทุกการใช้งานก็ย่อมมีปัญหาเข้ามาทักทาย บางคนที่กำลังใช้เมาส์อย่างเมามันนั้นอาจจะต้องเจอกับปัญหาอย่าง เมาส์ค้าง จะขยับหรือสะบัดยังไงตัวเคอร์เซอร์เมาส์ที่เป็นลูกศรก็ไม่ขยับเสียที Mercular ก็อยากจะบอกกับคนที่กำลังประสบปัญหานี้ว่า อย่าพึ่งวู่วาม ใจร้อนจนถึงขั้นเขวี้ยงเมาส์ทิ้งไป เพราะเมื่อเกิดปัญหาก็ย่อมมีทางแก้ไข มาอ่าน วิธีแก้เมาส์ค้าง ทำได้เลยด้วยตัวเอง จะต้องทำยังไงบ้าง ไปดูกันเลย

วิธีแก้เมาส์ค้าง

สำหรับวิธีการแก้เมาส์ค้างนั้น จะสามารถเข้าไปตรวจสอบและแก้ไขได้ถึง 2 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือแก้ไขจากตัวเมาส์เอง กับ แก้ไขจากไดรเวอร์ของเมาส์ ซึ่งแต่ละส่วนนั้นจะทำยังไงบ้าง และทำแบบไหน Mercular ก็จะมาบอกให้ได้รู้กันครับ

แก้ปัญหาจากตัวเมาส์

สำหรับการแก้ไขจากส่วนเมาส์นี้ จะแก้ไขแตกต่างกันออกไปตามประเภทของเมาส์ที่เราใช้ เนื่องจากในปัจจุบันนั้น เมาส์สามารถทำการใช้งานได้ถึง 2 แบบด้วยกันนั่นก็คือ เมาส์มีสายและเมาส์ไร้สาย ทำให้การตรวจสอบและแก้ไขนั้นแตกต่างกันไป

เมาส์แบบมีสาย

วิธีแก้เมาส์ค้าง

1. ถอดสายและเสียบใหม่ 

สำหรับใครก็ตามที่เจอปัญหาเมาส์ค้างจากเมาส์มีสายที่เราใช้งานอยู่นั้น ก็ให้ใช้วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้นสุดคลาสสิก เมื่อเห็นตัวเมาส์ที่เราใช้งานนั้นจู่ ๆ เกิดอาการค้างขึ้นมา ไม่สามารถขยับเคอร์เซอร์ได้ตามต้องการ ให้ทำการถอดสายของเมาส์ออก แล้วเสียบเข้าไป ทำแบบนี้สัก 2 ถึง 3 ครั้ง หลังจากแน่ใจว่าเสียบแน่นแล้ว ก็ลองใช้งานดูได้เลยครับ

2. เปลี่ยนเมาส์

หากว่าข้างตัวหรือคนที่นั่งข้าง ๆ มีเมาส์อยู่ ให้เราทำการขอยืมมาใช้งานดูก่อน เพียงแค่นี้เราก็จะสามารถรู้ได้แล้วว่าปัญหามันเกิดขึ้นจากตัวเมาส์ของเราใช่หรือไม้ ถ้าเมาส์ตัวใหม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ก็ให้เปลี่ยนเมาส์ทันที เพราะสิ่งที่เสียนั้นอาจจะเป็นสาย USB ของเมาส์เราก็เป็นได้

เมาส์แบบไร้สาย

วิธีแก้เมาส์ค้าง

สำหรับเมาส์แบบไร้สายนั้นจะเป็นเมาส์ที่ทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ด้วยระบบ Bluetooth และ Wireless โดยบางรุ่นนั้นใช้แบตเตอรี่เป็นถ่าน ส่วนบางรุ่นใช้แบตเตอรี่โดยการชาร์จ ซึ่งสำหรับปัญหาเมาส์ค้างในเมาส์ไร้สายแบบนี้จะแก้ไขยังไงนั้น ไปดูกันเลย

1. ปิดเปิดสวิตช์ที่ตัวเมาส์ใหม่

สำหรับวิธีนี้ก็คือ การปิดเปิดสวิตซ์ที่ตัวเมาส์ เพื่อเหมือนเป็นการ Reset ระบบเมาส์ใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาแนวเดียวกับถอดสายและเสียบใหม่ ถ้าทำแล้วผลก็สามารถใช้เมาส์ต่อไปได้ แต่ถ้าใช้ไม่ได้ จุดต่อไปที่ควรไปตรวจสอบและแก้ไขก็คือแบตเตอรี่ของเมาส์

2. แบตเตอรี่อาจจะหมดหมด

ด้วยความที่เมาส์ไร้สายนั้นใช้ถ่านหรือชาร์จแบต บางรุ่นอาจจะสามารถใช้งานได้เป็นเวลานานจนเราลืมว่าแบตเตอรี่นั้นชาร์จครั้งล่าสุดตอนไหน ดังนั้นถ้าเมาส์ค้าง ไม่สามารถขยับเคอร์เซอร์ได้ก็ตีความได้เลยว่าถ่านหรือว่าแบตเตอรี่อาจจะหมด ให้ทำการเปลี่ยนถ่านหรือชาร์จแบตแล้วค่อยลองใช้งานอีกที

สำหรับการแก้ปัญหาเมาส์จากตัวเมาส์ไม่ว่าจะเป็นแบบมีสายหรือไร้สาย ถ้าทำตามขั้นตอนนี้ก็สามารถที่จะพอแก้ปัญหาไปได้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งหากใช้งานได้แล้วต่อไปที่ต้องทำเพื่อไม่ให้เจอปัญหาเมาส์ค้างอีกรอบนั้นก็คือ การเข้าไปตรวจสอบไดรเวอร์ของเมาส์นั่นเองครับ

แก้ปัญหาจากไดรเวอร์ของเมาส์

เนื่องจากตัว Windows นั้นจะมีการอัปเดตอยู่ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งตัวไดรเวอร์ของเมาส์ก็ไม่ได้อัปเดตตามตัว Windows จึงทำให้เป็นรุ่นที่เก่ากว่า ดังนั้นการใช้งานจึงเกิดปัญหาขึ้นมา เพราะฉะนั้นหากไม่อยากให้ตัวเมาส์นั้นเกิดอาการค้างตอนที่กำลังใช้งานอย่างเพลิน ๆ อยู่นั้น ก็ต้องทำการอัปเดตไดรเวอร์ให้เป็นเวอร์ชั่นหรือรุ่นล่าสุด โดยวิธีการอัปเดตนั้นก็สามารถทำได้ตามนี้เลยครับ

วิธีแก้เมาส์ค้าง

1. เปิดหน้า Windows ขึ้นมา 

2. พิมพ์คำว่า Device Manager ในช่องค้นหา จะเป็นการเปิดหน้าต่างรวมไดรเวอร์ทั้งหมดในเครื่อง

3. ไปที่ Mice and other pointing devices มีไอคอนเป็นรูปเมาส์

4. กดที่ลูกศรหน้าไอคอน จะปรากฎไดรเวอร์ HID-compliant mouse ซึ่งเป็นไดรเวอร์ของเมาส์ที่เชื่อมกับอุปกรณ์นี้อยู่

5. ดับเบิ้ลคลิกที่ไดรเวอร์ตัวที่สอง

6. เมื่อหน้าต่างไดรเวอร์ขึ้นมาแล้ว ให้เลือกไปที่แท็บ Driver

7. กดที่ Update Driver คำสั่งการอัปเดตนั้นจะเปิดขึ้นมา

8. เลือก Search automatically for driversเพื่อทำการอัปเดตโดยอัตโนมัติ

9. รอสักครู่ให้ระบบนั้นทำการหาไดรเวอร์ โดยขั้นตอนนี้ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไว้ตลอดเวลาด้วย

10. หากไดรเวอร์เป็นรุ่นปัจจุบันระบบจะแจ้งเตือนว่าเป็นรุ่นล่าสุดแล้ว แต่หากเป็นรุ่นเก่าระบบจะทำการติดตั้งไดรเวอร์รุ่นใหม่ทันที 

เมื่อระบบติดตั้งเสร็จ การอัปไดรเวอร์จึงเสร็จสมบูรณ์ เพียงเท่านี้การอัปเดตไดรเวอร์ก็จะทำให้เมาส์ของคุณนั้นมีไดรเวอร์ที่เป็นรุ่นปัจจุบัน และถือว่าช่วยลดปัญหาในการเกิดอาการค้างได้เป็นอย่างมาก ทำให้คุณสามารถใช้งานเมาส์ได้อย่างไหลลื่นและเพลิดเพลินไม่ว่าจะเอาไว้ใช้ทำงานหรือเล่นเกมเลยล่ะครับ

Related Post

อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ทำงานอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ทำงาน

อุปกรณ์ต่าง ๆ ในคอมมีปัญหาทำงานบกพร่องหรือไม่ทำงานอาจเกิดขึ้นจากหลากหลายสาเหตุ จำเป็นที่จะต้องค้นหาสาเหตุเป็นการเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ด เมาส์ ลำโพง เสียงหาย หน้าจอแสดงผลไม่สมบูรณ์ ซึ่งหากลองตรวจสอบแบตเตอรี่หรือร่องรอยความชำรุดเสียหายแล้วไม่พบ ก็มีความเป็นไปได้ว่าสาเหตุอาจมาจากไดร์เวอร์ของอุปกรณ์ดังกล่าวอาจขาดการอัพเดตหรือทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งในกรณีแก้ไขได้ไม่ยาก วิธีแก้ไข: ให้ตรวจสอบรุ่นของอุปกรณ์ที่ใช้ จากนั้นให้ดาวน์โหลดไดร์เวอร์จากอินเตอร์เน็ตมาอัพเดตแทนไดร์เวอร์เก่าที่ล้าสมัยหรือทำงานผิดปกติ หากปัญหาเกิดจากไดร์เวอร์ การอัพเดตไดร์เวอร์ใหม่แล้ว Restart คอมจะช่วยให้อุปกรณ์เหล่านั้นกลับมาทำงานได้ตามปกติ

ไม่สามารถเข้า Windows ได้ไม่สามารถเข้า Windows ได้

การเข้า Windows ไม่ได้นับว่าเป็นปัญหาใหญ่มากทีเดียว เพราะจะทำให้ไม่สามารถเข้าใช้งานคอมพิวเตอร์ได้ ดังนั้น จำเป็นต้องหาสาเหตุให้พบว่าสาเหตุที่ทำให้ระบบปฏิบัติการ Window ภายในคอมล่มเกิดจากอะไร ไม่ว่าจะเป็นการถูกจู่โจมด้วยไวรัส อุปกรณ์ชำรุดเสียหายจากน้ำหรือไฟฟ้าลัดวงจร หรือคอมพิวเตอร์ขาดการอัพเดตและใช้นานมาเป็นเวลานานโดยไม่ได้บำรุงรักษา จึงจะสามารถหาทางแก้ไขได้อย่างตรงจุด วิธีแก้ไข: กรณี Window เข้าไม่ได้ สามารถแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการเข้าไปยัง Safe Mode เพื่อถอนการติดตั้งโปรแกรมที่อาจนำไวรัสมารังควาญการทำงานของคอมพิวเตอร์ หรืออาจใช้ Safe Mode ในการดึงข้อมูลไปเก็บไว้ให้ปลอดภัยก่อนที่จะลง Window ใหม่ก็ได้เช่นกัน

สาเหตุและวิธีแก้ไขเมื่อคอมพิวเตอร์เจอปัญหาความร้อนสูงเกินไปสาเหตุและวิธีแก้ไขเมื่อคอมพิวเตอร์เจอปัญหาความร้อนสูงเกินไป

วิธีการตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์มีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่?  เริ่มต้นด้วยการสัมผัสพีซีของคุณเพื่อตรวจสอบว่าเครื่องร้อนเกินไปหรือไม่  จะพบว่าอุปกรณ์ค่อนข้างร้อน นอกจากนี้ ยังมีเสียงดังของพัดลมพีซีที่ทำงานด้วยความเร็วอย่างเต็มที่ การทำงานที่ช้าลงอย่างมาก และการปิดระบบโดยไม่คาดคิด ก็เป็นสัญญาณที่แสดงว่าคอมพิวเตอร์ร้อนเกินไปเช่นกัน หากพีซีของคุณค้างและหยุดทำงานบ่อยครั้งนั่นก็เพื่อลดความเสียหายเนื่องจากความร้อนที่สูงเกินไป จึงทำให้ CPU เลือกที่จะปิดงานส่วนที่ใช้ทรัพยากรมาก ในกรณีที่คอมพิวเตอร์ของคุณเริ่มส่งเสียงดังหรือร้อนขึ้นเมื่อเปิดแท็บมากเกินไปในเบราว์เซอร์ของคุณ หรือขณะที่ไฟล์มัลติมีเดียกำลังถูกแก้ไขหรือในขณะที่คุณกำลังเล่นเกมอยู่ แสดงว่าพีซีมีความร้อนสูงเกินไปอย่างแน่นอน คุณต้องปิดโปรแกรมเหล่านี้ทันทีเพื่อให้พีซีของคุณมีเวลาพักและมีเวลาให้เย็นลง นอกจากนี้ คุณอาจต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ตรวจสอบอุณหภูมิหากคอมพิวเตอร์ของคุณมีความร้อนสูงเกินไปบ่อยๆ ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้คุณสามารถตรวจสอบอุณหภูมิของพีซีได้ในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน ทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่และเมื่อใดด้วย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคอมพิวเตอร์มีความร้อนสูงนานเกินไป หากคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเย็นลงได้เป็นเวลานาน ผลลัพธ์ของคอมพิวเตอร์จะแตกต่างกันไปตามปริมาณความร้อนที่เกิดขึ้นและการออกแบบของ CPU โดยเริ่มแรกนั้น คุณจะสังเกตเห็นว่าพีซีของคุณค้างหรือหยุดทำงาน หากปัญหาความร้อนสูงเกินไปไม่ได้รับการแก้ไขในขั้นตอนนี้ จะนำไปสู่ข้อผิดพลาด BSOD