คอมพิวเตอร์มีเสียงร้อง

คอมพิวเตอร์มีเสียงร้องอาจเกิดได้จากหลายเหตุปัจจัย แต่โดยปกติแล้วความผิดปกติที่เกิดขึ้นจะมีสาเหตุมาจากเมนบอร์ดมีปัญหาเป็นหลัก โดยเสียงดังติ๊ด ๆ แต่ละแบบจะมีความหมายที่สามารถใช้บ่งบอกสาเหตุของความผิดปกติได้ อาจแบ่งแยกได้ตามลักษณะของเสียงดังต่อไปนี้

  • เสียง Beep สั้นๆ 2-3 ครั้ง หมายความว่าเครื่องมีปัญหา อาจเกิดจาก Ram หรือเมนบอร์ดทำงานผิดปกติหรือ Post ไม่ผ่าน
  • เสียง Beep สั้น ๆ ติดต่อกันหลายครั้ง หมายความว่าเมนบอร์ดทำงานผิดปกติ
  • เสียง Beep ยาว ๆ 1 ครั้ง และสั้น ๆ 2 ครั้ง หมายความว่าต้นตอของปัญหาอยู่ที่การ์ดจอซึ่งอาจจะชำรุดเสียหายหรือเสียบไม่สนิท
  • เสียง Beep ดังยาว ๆ ต่อเนื่องหลายครั้ง หมายความว่า Ram หรือหน่วยความจำมีปัญหา

สำหรับการแก้ไขปัญหาคอมพิวเตอร์มีเสียงร้อง เริ่มแรกเจ้าของคอมต้องวิเคราะห์ให้ได้ก่อนว่าสาเหตุที่ทำให้คอมมีเสียงร้องเกิดขึ้นเพราะอะไร จากนั้นอาจลองแก้ไขเบื้องต้นด้วยวิธีพื้นฐานอย่างการ Restart เครื่องใหม่ หรือในกรณีที่ฟังเสียง Beepcode แล้ววิเคราะห์ได้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมาจาก Ram เป็นหลักอาจจะลองเช็ค Ram ดูว่ามีการเสียบสนิทหรือไม่ หากไม่ก็ให้ลองขยับให้เข้าที่เข้าทาง หรือถอดออกมาทำความสะอาด เช่นเดียวกับปัญหาที่เกิดเพราะการ์ดจอหรือเมนบอร์ด

Related Post

สาเหตุและวิธีแก้ไขเมื่อคอมพิวเตอร์เจอปัญหาความร้อนสูงเกินไปสาเหตุและวิธีแก้ไขเมื่อคอมพิวเตอร์เจอปัญหาความร้อนสูงเกินไป

วิธีการตรวจสอบว่าคอมพิวเตอร์มีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่?  เริ่มต้นด้วยการสัมผัสพีซีของคุณเพื่อตรวจสอบว่าเครื่องร้อนเกินไปหรือไม่  จะพบว่าอุปกรณ์ค่อนข้างร้อน นอกจากนี้ ยังมีเสียงดังของพัดลมพีซีที่ทำงานด้วยความเร็วอย่างเต็มที่ การทำงานที่ช้าลงอย่างมาก และการปิดระบบโดยไม่คาดคิด ก็เป็นสัญญาณที่แสดงว่าคอมพิวเตอร์ร้อนเกินไปเช่นกัน หากพีซีของคุณค้างและหยุดทำงานบ่อยครั้งนั่นก็เพื่อลดความเสียหายเนื่องจากความร้อนที่สูงเกินไป จึงทำให้ CPU เลือกที่จะปิดงานส่วนที่ใช้ทรัพยากรมาก ในกรณีที่คอมพิวเตอร์ของคุณเริ่มส่งเสียงดังหรือร้อนขึ้นเมื่อเปิดแท็บมากเกินไปในเบราว์เซอร์ของคุณ หรือขณะที่ไฟล์มัลติมีเดียกำลังถูกแก้ไขหรือในขณะที่คุณกำลังเล่นเกมอยู่ แสดงว่าพีซีมีความร้อนสูงเกินไปอย่างแน่นอน คุณต้องปิดโปรแกรมเหล่านี้ทันทีเพื่อให้พีซีของคุณมีเวลาพักและมีเวลาให้เย็นลง นอกจากนี้ คุณอาจต้องติดตั้งซอฟต์แวร์ตรวจสอบอุณหภูมิหากคอมพิวเตอร์ของคุณมีความร้อนสูงเกินไปบ่อยๆ ซึ่งการทำเช่นนี้จะทำให้คุณสามารถตรวจสอบอุณหภูมิของพีซีได้ในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน ทำให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ว่าคอมพิวเตอร์ของคุณมีความร้อนสูงเกินไปหรือไม่และเมื่อใดด้วย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคอมพิวเตอร์มีความร้อนสูงนานเกินไป หากคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเย็นลงได้เป็นเวลานาน ผลลัพธ์ของคอมพิวเตอร์จะแตกต่างกันไปตามปริมาณความร้อนที่เกิดขึ้นและการออกแบบของ CPU โดยเริ่มแรกนั้น คุณจะสังเกตเห็นว่าพีซีของคุณค้างหรือหยุดทำงาน หากปัญหาความร้อนสูงเกินไปไม่ได้รับการแก้ไขในขั้นตอนนี้ จะนำไปสู่ข้อผิดพลาด BSOD

ปัญหาต้องตั้งเวลาใหม่ปัญหาต้องตั้งเวลาใหม่

ปกติแล้วเวลาในคอมพิวเตอร์จะต้องมีการอัพเดตแบบเรียลไทม์ทุกครั้งที่เปิดคอมขึ้นใช้งาน แต่ในกรณีที่เปิดคอมขึ้นมาแล้ว เวลาถูกรีเซ็ทเป็น 0.00 ทุกครั้ง แสดงว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับคอม โดยเฉพาะแบตเตอรี่ในเมนบอร์ดอาจจะหมดอายุเนื่องจากใช้งานมาเป็นระยะเวลานาน หรือคอมเก่าและไม่ค่อยได้บำรุงรักษาเท่าใดนัก วิธีแก้ไข: หากแบตเตอรี่ในเมนบอร์ดหมดอายุ สามารถแก้ไขได้ง่าย ๆ ด้วยการนำไปเปลี่ยนที่ร้านหรือซื้อแบตใหม่มาเปลี่ยนที่บ้านก็ได้เช่นกัน

อุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ทำงานอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ทำงาน

อุปกรณ์ต่าง ๆ ในคอมมีปัญหาทำงานบกพร่องหรือไม่ทำงานอาจเกิดขึ้นจากหลากหลายสาเหตุ จำเป็นที่จะต้องค้นหาสาเหตุเป็นการเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ด เมาส์ ลำโพง เสียงหาย หน้าจอแสดงผลไม่สมบูรณ์ ซึ่งหากลองตรวจสอบแบตเตอรี่หรือร่องรอยความชำรุดเสียหายแล้วไม่พบ ก็มีความเป็นไปได้ว่าสาเหตุอาจมาจากไดร์เวอร์ของอุปกรณ์ดังกล่าวอาจขาดการอัพเดตหรือทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งในกรณีแก้ไขได้ไม่ยาก วิธีแก้ไข: ให้ตรวจสอบรุ่นของอุปกรณ์ที่ใช้ จากนั้นให้ดาวน์โหลดไดร์เวอร์จากอินเตอร์เน็ตมาอัพเดตแทนไดร์เวอร์เก่าที่ล้าสมัยหรือทำงานผิดปกติ หากปัญหาเกิดจากไดร์เวอร์ การอัพเดตไดร์เวอร์ใหม่แล้ว Restart คอมจะช่วยให้อุปกรณ์เหล่านั้นกลับมาทำงานได้ตามปกติ