YMFTHAI-FAQ Google คู่มือการใช้งาน Google Slides

คู่มือการใช้งาน Google Slides

1.Google Slides คืออะไร
Google Slide เป็นเครื่องมือสำหรับสร้างงานนำเสนอ (Presentation) ในรูปแบบต่างๆ เช่นเดียวกับโปรแกรม Microsoft
PowerPoint โดยผู้ใช้สามารถ ใส่ข้อความ รูปภาพเคลื่อนไหว แอฟเฟคเสียงดนตรี หรือ Template เพื่อเพิ่มความสวยงามและ
ดึงดูดสนใจ ส าหรับ Google Slides ท างานโดย ไม่ต้องติดตั้งโปรแกรม และสามารถท างานร่วมกับผู้อื่นไปพร้อมๆ กันได้อีกด้วย

นอกจากนี้ Google Slide ยังรองรับการทำงานบนอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต
สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ ระบบมีการบันทึกทุกอย่างแบบอัตโนมัติ ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าไฟล์ข้อมูลจะสูญหาย

2. การเข้าใช้งาน Google Slides
วิธีการเข้าใช้งาน Google Slides สามารถทำได้ 2วิธี ดังนี้

วิธีที่ 1 : 1.1 เข้าใช้งานด้วยการ Sign in account Gmail หลังจากนั้นคลิกที่ไอคอน Google apps

1.2 คลิกเลือก Google Slides

วิธีที่ 2: 2.1 เข้าไปที่เว็บไซต์ www.google.com/intl/en/slides/about
2.2 คลิกปุ่ม Go to Google Slides และลงทะเบียนเข้าใช้งาน Gmail

1. เมื่อเข้าสู่การทำงานของ Google Slide แล้วให้คลิกเครื่องหมาย + ในช่อง Blank เพื่อสร้างานนำเสนอใหม่ (กระดาษเปล่า)

2. ถ้าต้องการใช้รูปแบบ Themสำเร็จรูป ให้คลิกที่ TEMPLATE GALLERY และคลิกเลือกรูปแบบที่ต้องการ

3. จะปรากฏหน้าต่างหลัก Google Slide ซึ่งจะมีฟังก์ชั่นการทำงานดังนี้

3.1 ชื่อชิ้นงาน คือ การตั้งชื่อไฟล์งาน/ผลงาน
3.2 แถบเมนูคือ แถบที่รวบรวมค าสั่งหลักทุกคำสั่งในการใช้งานโปรแกรม
3.3 แถบเครื่องมือการจัดการ คือชุดเครื่องมือที่ใช้ในการจัดการเกี่ยวกับข้อความและวัตถุต่างๆ บนสไลด์
3.4 WorkSpace คือ พื้นที่การทำงาน
3.5 แถบมุมมองและการแสดงความคิดเห็น คือ การดูตัวอย่างสไลด์งาน และการแสดงความคิดเห็น

4. การแทรกวัตถุรูปภาพ และข้อความ

การสร้างและการจัดการข้อความ
4.1 คลิกไอคอน Text box แล้วลากกล่องข้อความลงบนพื้นที่ทำงาน เพื่อพิมพ์ข้อความตามต้องการ
4.2 สังเกตว่าแถบเครื่องมือในการจัดการข้อความจะปรากฎขึ้น เช่น การใส่สีกล่องข้อความ สีตัวอักษรกำหนดรูปแบบ
และขนาดตัวอักษร เป็นต้น

การแทรกรูปภาพ

4.3 การแทรกรูปภาพ คลิกไอคอน
4.4 จะปรากฏหน้าต่าง Insert image โดยจะสามารถแทรกรูปภาพได้จาก

  • Upload คือ การอัพโหลดจากคอมพิวเตอร์
  • Take a snapshot คือ การถ่ายรูปจากกล้อง
  • By URL คือ การแทรกรูปภาพจากลิงก์URL
  • Your albums คือ การแทรกรูปภาพจากอัลบั้ม
  • Google Drive คือ การแทรกรูปภาพจาก Google Drive
  • Search คือ การค้นหารูปภาพจาก Google
    4.5 คลิกปุ่ ม Choose an image to upload เพื่ออัพโหลดภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์
    4.6 เลือกรูปภาพที่ต้องการ และคลิกปุ่ม Open รูปภาพจะไปแสดงอยู่บนสไลด์

5. การแบ่งปันไฟล์ Google Slide เพื่อใช้ร่วมกัน
Google Slides สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอน ได้อย่างหลากหลาย ทั้งในรูปแบบการนำเสนอในชั้นเรียน กิจกรรมที่น่าสนใจ ที่นำไปประยุกต์ในการจัดกิจกรรมอภิปรายกลุ่มออนไลน์ในชั้นเรียนได้ ซึ่งสามารถกำหนดค่าการแบ่งปันให้กับบุคคลอื่น ไฟล์ที่เราแบ่งปันนั้นก็จะถูกอัพเดตตลอดเวลาได้ ดังนี้

1. เปิดสไลด์ที่ต้องการแบ่งปันใช้งานร่วมกัน จากนั้นคลิกปุ่ม Share หรือคลิกที่แถบเมนู File เลือกคำสั่ง Shareจะปรากฏหน้าต่าง Share with othersขึ้นมา

2. ป้อนชื่อหรืออีเมล์ที่ต้องการแบ่งปัน

3. คลิกไอคอน เพื่อกำหนดสิทธฺ์ในการเข้าถึงข้อมูลให้กับผู้ที่ต้องการทำงานร่วมกัน มี 3 รูปแบบดังนี้

  • Can edit คือ สามารถแก้ไข ปรับปรุง ไฟล์หรือโฟลเดอร์ได้
  • Can comment คือ สามารถแก้ไข ปรับปรุง ไฟล์หรือโฟลเดอร์ได้ แต่เมื่อบุคคลที่เราแบ่งปันไฟล์ให้แก้ไข
    ไฟล์หรือโฟลเดอร์จะเป็นการให้คำแนะนาแก่เจ้าของไฟล์
  • Can view คือ สามารถดูไฟล์หรือโฟลเดอร์ได้เพียงอย่างเดียว

4.ส่งข้อความไปยังผู้รับได้ในช่อง Add a note

5.คลิกปุ่ม Sent เพื่อทำการส่ง

6.ในการแบ่งปันไฟล์เราสามารถเข้าไปตั้งค่าการแบ่งปันอื่นๆ โดยคลิกที่ Advance

7.จะปรากฏหน้าต่าง Sharing settings สำหรับการตั้งค่าดังต่อไปนี้
7.1 คัดลอก link เพื่อนำไปแบ่งปัน
7.2 Share ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Twitter หรือ Google+ เป็นต้น
7.3 ป้อนชื่อหรืออีเมล์ที่ต้องการแบ่งปัน

8. การตั้งค่าการเข้าถึงไฟล์ คลิก Change จะปรากฏหน้าต่าง Link sharing ซึ่งการตั้งค่าการแบ่งปัน มีดังนี้

  • On – Public on the web (สาธารณะทางเว็บ) หมายถึง ผู้ใช้งานทุกคนสามารถค้นหาไฟล์ และโฟลเดอร์ที่แบ่งปันนี้ได้ สามารถค้นหาเจอจากระบบค้นหาของ Google หรือระบบค้นหาจากทางอินเทอร์เน็ตได้ โดยผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมี Google Accountก็สามารถใช้งานไฟล์หรือโฟลเดอร์นั้นได้ ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับเอกสารที่ต้องการเผยแพร่สู่สาธารณะ ไม่เป็นเอกสารที่มีความลับต้องปกปิด
  • On – Anyone with the link (ทุกคนที่มีลิงก์) หมายถึง ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงไฟล์ หรือ โฟลเดอร์นี้ได้ โดยการ
    ได้รับลิงก์จากเจ้าของไฟล์ หรือ โฟลเดอร์ส่งให้เท่านั้น ส่วนคนอื่นที่ไม่มีลิงก์หรือไม่ได้รับลิงก์ก็ไม่สามารถเข้าถึงได้ ผู้เข้า
    ช้งานไม่จำเป็นต้องมีGoogle Account ก็สามารถเข้าใช้งานได้ เพียงแค่มีลิงก์ที่ถูกต้องก็สามารถเข้าใช้ได้ ตัวเลือกนี้จึงเหมาะสำหรับการแชร์ไฟล์ หรือ โฟลเดอร์ให้เฉพาะบุคคล เช่น การส่งอีเมล์พร้อมแนบลิงก์ของไฟล์ หรือโฟลเดอร์นี้
  • Off-Specific people (ผู้ใช้ที่ระบุเท่านั้น ) หมายถึง ผู้ใช้ต้องมี Google Account และถูกระบุชื่อจากเจ้าของไฟล์
    เท่านั้น ถึงจะเข้าใช้ได้ ตัวเลือกนี้เหมาะสำหรับเอกสารที่ต้องการแบ่งปันเฉพาะบุคคลเท่านั้น

9. เมื่อกำหนดการตั้งค่าเสร็จเรียบร้อยแล้วให้คลิกปุ่ ม Save เพื่อทำการบันทึก

10. หลังจากนั้นให้คลิกปุ่ม Done ที่หน้าต่าง Sharing settings ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

Related Post

วิธีตรวจเช็คและกำจัด มัลแวร์ / ไวรัส ในเครื่องคอมพิวเตอร์วิธีตรวจเช็คและกำจัด มัลแวร์ / ไวรัส ในเครื่องคอมพิวเตอร์

Malware คืออะไร        มัลแวร์ (Malware) ย่อมาจากคำว่า Malicious Software โดยเราจะอธิบายคำว่ามัลแวร์ว่าคือโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อประสงค์ร้ายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์และเพื่อมาล้วงข้อมูลสำคัญไปจากผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ โดยมัลแวร์ที่เรารู้จักกันดีก็คือ ไวรัส (Virus) เวิร์ม (Worm) โทรจัน (Trojan Horse) สปายแวร์ (Spyware) คีย์ล๊อกเกอร์ (Key Logger) คุ้กกี้ (Cookie) และการ Malicious Mobile Code

คู่มือการใช้งาน  Google Meet เบื้องต้นคู่มือการใช้งาน  Google Meet เบื้องต้น

แนะนำการใช้งาน Google Meet Google Meet เป็น Application ที่ใช้ในการประชุม Conference โดยสามารถใช้ได้ทั้ง PC และ Mobile ในส่วนของ PC ใช้ผ่าน Web Browser ส่วน Mobile ใช้ผ่านทาง Application Hangout Meet การเข้าใช้งานให้เราทำการ Login อีเมล์ของหน่วยงานก่อน เมื่อทำการ Login ให้คลิกที่ปุ่ม

ไอคอน Desktopไม่แสดง วิธีแก้ไอคอน Desktopไม่แสดง วิธีแก้

1. หากคอมพิวเตอร์ของคุณใช้ Windows 10: หากปัญหานี้ยังคงอยู่ ให้สำรองข้อมูลของคุณและใช้ F10 เพื่อคืนค่าคอมพิวเตอร์เป็นการตั้งค่าเริ่มต้นจากโรงงาน 2. หากคอมพิวเตอร์ของคุณใช้ Linux: ให้ปิดคอมพิวเตอร์ แล้วเปิดอีกครั้ง หากปัญหานี้ยังคงอยู่ ให้สำรองข้อมูลและนำอุปกรณ์ รวมทั้งหลักฐานการซื้อของคุณไปยังศูนย์บริการลูกค้า Huawei ที่ได้รับอนุญาตเพื่อขอรับความช่วยเหลือ